“สเต็มเซลล์” ช่วยจัดการปัญหาต่างๆบนใบหน้า ที่ทำให้หลายๆคนติดใจมาแล้วตั้งแต่ลองทำครั้งแรก เป็นสเต็มเซลล์ที่มาจากเลือดของเราเอง ไม่มีทางแพ้อย่างแน่นอน หรือที่เราเรียกกันว่า “PRP” ย่อมากจาก Platelet-Rich Plasma
ถือเป็นหนึ่งในการรักษาที่ขึ้นชื่อว่าปลอดภัย และไม่ต้องกังวลเรื่องเจ็บ หรือพักฟื้น เพราะรักษาโดยการใช้เกล็ดเลือดของตัวเอง ซึงในเลือดของเรามีพลาสม่า ทำให้กระบวนการซ่อมแซมเกิดขึ้น เราจึงนำนวัตกรรมการแพทย์นี้มาใช้ เพื่อเลี่ยงการใช้ยา และผ่าตัด
PRP (Platelet-Rich Plasma) คืออะไร?
“PRP (Platelet-Rich Plasma)” คือ การนำเลือดของเราเองออกมาปั่น ซึ่งจะใช้เลือดประมาณ 20ซีซี พอได้เลือดแล้วก็จะนำเลือดเข้าทิ้วเลือดสำหรับเตรียมปั่นทำ PRP แล้วก็เข้าเครื่องปั่น หลังจากผ่านกระบวนการเตรียมอย่างถูกต้อง ทิ้วเลือดก็จะแยกเป็นชั้นๆออกมา เราจะเอาเพียงชั้นที่มีลักษณะสีเหลืองใส เพราะชั้นนี้จะมีส่วนประกอบของ Growth factor ที่มีคุณภาพ มีความเข้มข้นสูง
ซึ่งตัว Growth factor จะมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมต่างๆ และมีส่วนช่วยบำรุงฟื้นฟู ให้ผิวกลับมาแข็งแรง ทำให้ดูอ่อนเยาว์ และใบหน้าดูกระจ่างใส มากขึ้น
โดย PRP ได้มีการนำมาใช้ในการบำบัดรักษาผู้ป่วยมานานกว่า 30ปีแล้ว การันตีได้ว่ามีประสิทธิภาพในการรักษา รวมถึงมีงานวิจัยตีพิมพ์ทางการแพทย์ที่สนับสนุนถึงการใช้ PRP ในการรักษา สามารถบำบัดอาการบาดเจ็บ ลดความเจ็บปวดรวมทั้งการลดริ้วรอย ชะลอความเสื่อมตามวัย
แม้แต่อดีตนักกอล์ฟมือหนึ่งของโลกอย่าง Tiger Woods หรือนักเทสนิสมืออาชีพ อย่าง Rafael Nadal ก็เลือกฉีด PRP เพื่อใช้สำหรับรักษา ซ่อมแซม เนื้อเยื่ออ่อน เอ็น หรือกล้ามเนื้อที่มีอาการบาดเจ็บ และอักเสบได้ด้วย
ขั้นตอนการทำ PRP
1. ดูดเลือดออกมา ครั้งละ 20ซีซี
2. นำไปใส่ในหลอดเลือด ที่มีสารสำหรับป้องกันการแข็งตัวของเลือด
3. นำเข้าเครื่องปั่น เพื่อให้เกิดการแบ่งชั้นของตัวเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้น เม็ดเลือดแดง และพลาสม่า
4. โดยเราจะดูดเอาเฉพาะชั้นตรงกลาง ที่มีลักษณะ สีเหลืองใส ที่มีตัวเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้น เนื่องจากมีส่วนผสมของ growth factor ที่มีคุณภาพ
5. นำมาฉีดบริเวณใบหน้า เพื่อแก้ปัญหาต่างๆที่ลูกค้ากังวล (โดยเทคนิคเฉพาะของคุณหมอหลิว)
ปรึกษาหมอหลิว การฉีดPRP หน้าใส
ความแตกต่างของการฉีด PRP
ที่ต้นหลิวคลินิก คือ 3เทคนิคพิเศษ ดังนี้
เทคนิคที่ 1
ฉีด 16จุดตามจุดฝังเข็ม เนื่องด้วยตัวหมอหลิว ได้เรียนฝังเข็ม ทำให้มีความชำนาญหรือแม่นยำจุดต่างๆ ในการฉีด
เทคนิคที่ 2
ฉีดบริเวณเฉพาะจุดที่มีปัญหาต่างๆ รวมถึงสามารถทำ Skin Booster
เทคนิคที่ 3
ฉีดสะกิดทั่วหน้า ลักษณะคล้ายการทำเมโสหน้าใส
ซึ่งทำให้การฉีด PRP ที่ปกติก็มีสาร Growth factor อยู่แล้ว ประกอบกับเทคนิคการฉีดเฉพาะของต้นหลิวคลินิก ทำให้เห็นผลได้ชัดเจน ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
รีวิวผลลัพธ์ ฉีด PRP
ข้อจำกัดในการฉีด PRP
ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง, ติดเชื้อ รวมถึงโรคติดต่อต่างๆ
ตั้งครรภ์
คนไข้ที่กินยาต้านเกล็ดเลือด หรือยาละลายลิ่มเลือด
โลหิตจาง
ผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
ช่วงมีประจำเดือน
ประโยชน์ของ PRP ที่เรานำมาใช้ในปัจจุบัน
การฟื้นฟู และคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวหน้า
ช่วยให้หน้าใสฉ่ำวาว ดูมีออร่า
ช่วยลดสิวผด สิวอุดตัน
ช่วยกระชับรูขุมขน
ช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิว
ช่วยลดปัญหา ฝ้ากระ จุดด่างดำ
เป็นอาหารเลี้ยงผม ทำให้เพิ่มโอกาสติด
ช่วยให้หลุมสิว รอยสิว รอยแผลเป็นเล็กลง
ข้อแนะนำเรื่อง PRP จากหมอหลิว เทคนิคการฉีด PRP จะมีทั้งฉีดตามจุดฝังเข็ม ฉีดเฉพาะจุด และสะกิดทั่วหน้า เพื่อให้ตัว Growth factor ลงลึกจริงๆ และหลังจากเราฉีดแล้ว
แนะนำอย่าเพิ่งล้างหน้าอย่างน้อย 4ชั่วโมง แต่ว่าจริงๆแล้ว เคล็ดลับดีๆ จากผู้เคยทำบอกว่า “ให้ทิ้งไว้ข้ามคืนเลย ทำให้ตัวสเต็มเซลล์ ดูดซึมได้เต็มที่ และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเห็นผล” มาร์กหน้าทิ้งไว้ข้ามคืน ตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ ก็ทำให้ใบหน้าดูนุ่มเด้ง และดูกระจ่างใส นี่ก็เป็นเคล็ดลับดีๆของสาวๆที่มาใช้บริการที่ต้นหลิวคลินิกแนะนำ หมอเลยมาบอกต่อให้สาวๆได้หน้าใส และสวยกันถ้วนหน้าไปเลยจ้า
ปรึกษาหมอหลิว การฉีดPRP หน้าใส
ถาม-ตอบ การฉีดPRP หน้าใส
PRP เหมาะกับใครบ้าง ?
จริงๆคำตอบไม่ยากเลยค่ะ “PRP เหมาะกับทุกคน” เนื่องจาก PRP สามารถบำรุงหน้า และรักษาหน้าได้ บำรุงให้หน้าดูฉ่ำวาว สดใส และดูสุขภาพดี กระชับรูขุมขนได้ พร้อมช่วยรักษาฝ้ากระ จุดด่างดำ รอยดำแดงสิวได้เช่นกัน
ฉีด PRP เจ็บหรือเปล่า แปะยาชาไหม ?
ด้วยเทคนิคการฉีด ของต้นหลิวคลินิก ถึง 3วิธี มีทั้งฉีด 16จุด, สะกิดทั่วหน้า และฉีดเฉพาะจุด ก็แนะนำว่าควรแปะยาชาร่วมด้วย เพราะว่ามีการฉีดสะกิดทั่วหน้า
แต่ตัวPRP ไม่ได้เจ็บอะไร รวมถึงไม่แสบ ไม่เหมือนโบท็อกซ์และมาเด้ ดังนั้นบอกได้เลยว่าชิลล์มาก ผลลัพธ์สวยคุ้มค่าสุดๆ
PRP ทำกี่ครั้ง ถึงเห็นผล ?
จริงๆทำครั้งแรกก็สามารถเห็นผลได้เลย เพียงแต่บางปัญหา อาจต้องทำซ้ำถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน อาทิ ฝ้า กระ ที่เป็นระดับลึกมานานหลายปี หรือพวกรอยสิว หลุมสิว ที่เป็นหลุมเยอะ และรอยสิวค่อนข้างดำ
แนะนำควรทำอย่างน้อย 3-5ครั้งขึ้นไป เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและถาวร
PRP ทำบ่อยแค่ไหน ?
แนะนำการทำแต่ละครั้ง ควรอย่างน้อย 2สัปดาห์/ครั้ง เช่น พวกฝ้ากระ รอยดำสิว และหลุมสิว
แต่ถ้าเพื่อต้องการรักษาสภาพผิวหน้าให้คงที่ ไม่ได้มีปัญหาอะไรที่ต้องการแก้ไขเป็นพิเศษ แนะนำทำอย่างน้อย เดือนละ 1ครั้ง
PRP อันตรายหรือเปล่า ?
อันตรายหรือเปล่าก็ต้องดูที่มาของ PRP ซึ่งตัว PRP มาจากเลือดของเราเอง ฉะนั้นทำให้ไม่มีอันตรายและไม่เกิดอาการแพ้แน่นอน