วิธีเบื้องต้นการเช็คทรงจมูก ของตัวเอง??
สาวๆหลายคน บางทีก็สงสัยว่า “จมูกแบบนี้เหมาะกับทรงไหนดีคะ” หรือว่า “ทำออกมาแล้วจะเป็นยังไงนะ” “จะเข้าใบหน้าหรือเปล่า” “จะดูหลอกตาหรือเปล่า” รวมถึงหลายๆคนที่คิดว่า “จมูกควรแก้หรือไม่” “ถ้าแก้แล้ว จะดีกว่าเดิมมั้ยนะ” หรือว่าควรแก้ทรงไหนดี??
วันนี้หมอหลิว เลยมาบอกเคล็ดลับดีๆ รวมถึงวิธีการเช็คทรงจมูกตัวเองเบื้องต้นว่า เหมาะกับทรงไหนดี หรือว่าแบบไหน
ก่อนอื่นจะพูดโครงสร้างคร่าวๆว่า “จมูก” เป็นยังไงบ้าง มีส่วนไหนบ้างที่ควรเสริม หรือว่า เป็นปกติ ธรรมชาติ จมูกส่วนใหญ่ ที่คนอยากให้จมูกโด่ง ก็จะมี สามจุดหลักๆ นั้นก็คือ
- ตรงระหว่างตา
- ตรงสันจมูก
- ปลายจมูก ซี่งทั้งสามจุดนี้ จะมีลักษณะในการเสริมไม่เหมือนกันดังนี้
อยากชมแบบคลิป เพื่อเข้าใจมากขึ้น คลิกเลย
ส่วนบริเวณตรงระหว่างตา เป็นส่วนที่ต้องดูองค์ประกอบ
- ว่าหน้าผากมีลักษณะเป็นอย่างไร ตั้งฉาก หรือว่าหักลง หรือว่าสูงเดิมอยู่แล้ว
- เนื้อ ว่ามีลักษณะ มาก น้อย สามารถดึงขึ้นได้เยอะ หรือน้อย ต่างกันอย่างไร
- ลักษณะรูปตาก่อนทำ ว่าเป็นคนหัวตาแบบไหน ตาเล็กเดิม หรือว่า ตี่ หรือว่า มีเนื้อดึงตัวหัวตา เพราะจะมีผล ในการดึงสันตรงระหว่างตา ขึ้นมา
ซึ่งเมื่อสังเกตุองค์ประกอบเหล่านี้แล้ว เราก็จะรู้ว่าควรเอาสันจมูกขึ้นหรือไม่ หรือว่าเอาขึ้นได้มากน้อยขนาดไหน และมิติใบหน้าควรดูทั้งหน้าตรง และด้านข้าง เพื่อดูประกอบสันตรงระหว่างตา เพื่อไม่ให้ดูแข็ง หรือดูดุ และดูเป็นแท่งจนเกินไป
ส่วนบริเวณสันจมูก จะเป็นส่วนที่แล้วแต่ความชอบในแต่ละบุคคล บางคนก็ไม่ชอบสูง เพราะอาจจะดูแข็ง บางคนอยากได้สูง เพราะอยากให้ดูคม ก็ขึ้นกับปัจจัยหลักๆดังนี้
- เนื้อ ว่าสามารถดึงขึ้นได้มากหรือน้อย ถ้าน้อย ก็จะขึ้นได้จำกัด เนื่องจากเนื้อบริเวณนี้จะไม่สามารถขี้นได้มาก เพราะจำกัดด้วยตัวเนื้อของเรา ยกเว้นจะเป็นคนที่มีฐานกระดูกกว้าง ก็อาจตอกฐานกระดูก ก็จะได้เนื้อมากขึ้น หรือแม้ในคนที่อ้วน เพราะแก้มดึงออกทั้งสองข้าง ถ้าลดน้ำหนักก็จะมีเนื้อที่สามารถดึงขึ้นมาได้บ้าง และในบางคนที่มีกระดูกตรงกลางจมูกสูง หรือที่เรียกว่ากระดูกฮัมพ์สูง ถ้าเป็นลักษณะนี้แนะนำว่า อาจต้องตะไบฮัมพ์หรือ ตอกกระดูกฮัมพ์ออก เพื่อจะทำให้มิติ และเนื้อจะดูดึงขี้นมาได้มากขึ้น
- ส่วนมิติจมูก ถ้าเป็นคนที่ฐานกระดูกกว้าง แล้วอยากได้สันจมูกเล็กหรือใหญ่ ต้องดูโครงสร้างเป็นหลักว่าบางคน ฐานกระดูกกว้าง ก็อาจทำให้มิติจมูกเสริมมาก็ยังดูใหญ่ ก็แนะนำตอกฐานกระดูกให้สันจมูกดูเล็กลง ส่วนในบางคน อยากได้สันจมูกหนาเล็กน้อย ต้องอาศัย การเหลา และการเลือกซิลิโคนเป็นหลัก ว่าจะใช้ขนาดไหน ให้เข้ากับโครงหน้า และใบหน้ามากที่สุด
ส่วนบริเวณปลายจมูก จะเป็นส่วนที่หลากหลายในรูปทรงมากที่สุด เนื่องจากมีทั้ง ปลายหยดน้ำ ปลายพุ่งเชิด หรือว่าอยากให้ปลายดูเล็กลง ปีกจมูก และรูจมูกดูตั้งขึ้น
- ปลายจมูกถ้าเป็นคนปลายจมูกสั้น คือ บริเวณปลายจมูกนั้นสั้นกว่าตัวปีกจมูก แนะนำว่าอาจเพิ่มปลายจมูกให้ดูยาวขึ้น และเป็นหยดน้ำ แต่ถ้าเดิมจมูกสั้น ก็แนะนำรองปลายด้วยกระดูกอ่อนหลังใบหู หรือเนื้อเยื้อเทียม เพื่อให้ปลายดูยาวมากขึ้นและเป็นหยดน้ำ
- ปลายจมูกใหญ่ หรือปลายจมูกชมพู่ ถ้าเป็นคนปลายจมูกใหญ่ ก็อาจตกแต่งปลายจมูกให้ดูเรียวขึ้น หรือการเย็บอินเตอร์โดม เป็นการเย็บกระดูกอ่อนบริเวณปลายจมูกเข้าหากัน เพื่อให้ปลายดูเล็กลง
- ปลายจมูกดูงุ้ม หรือปลายจมูกดูแบน แนะนำว่าควรยกปลายให้ดูพุ่งเชิด เพื่อที่ว่าปลายจะได้ดูเรียวตั้งขึ้น โดยอาจใช้ซิลิโคนตัวที่ยกปลายให้ดูตั้งขึ้น หรือใช้กระดูกอ่อนหลังหู ต่อรองปลาย เพื่อให้ปลายดูพุ่งเชิด
อายุเยอะก็เสริมจมูกได้ ไม่ต้องกลัวบวมช้ำ รีวิวเสริมจมูกเน้นโหงวเฮ้ง – หมอหลิว ต้นหลิวคลินิก
ถ้าเบื้องต้นแล้วเช็คโดยภาพรวมมีปัญหา ต้องการแก้ไขก็แนะนำว่าควรเสริมจมูก แต่ว่าต้องดูโครงสร้างเราว่าเหมาะกับแบบไหน หรือว่าเราต้องการให้แก้ไขตรงไหน หรืออยากปรับทรงจมูกแบบไหน เพื่อให้เหมาะกับโครงสร้าง และเข้าใบหน้ามากที่สุด
ส่วนในงานแก้จมูก แนะนำว่า ต้องดูก่อนว่าเราอยากแก้เพราะอะไร ลิสต์รายการทั้งหมด ที่อยากแก้ออกมาว่ามีอะไรบ้าง เพื่อแก้แล้วตอบโจทย์ปัญหาที่ต้องการแก้มากที่สุด แต่จะขอยกปัญหาที่ได้เจอบ่อย สำหรับลูกค้าที่เคยเข้ามาปรึกษาดังนี้
ปัญหาซิลิโคนลอยคือ จับแล้วซิลิโคนขยับไปมา ซ้ายขวาได้ หรือว่า บิดได้ ไปมาซ้ายขวา ปัญหานี้จริงๆก็แนะนำว่าควรแก้ค่ะ เพราะว่าอาจส่งผลต่อซิลิโคนเคลื่อนลงตามมาได้ เนื่องจากเปิดผิดชั้น แต่ว่าต้องแยกก่อนว่า ที่ขยับได้นี้ เกิดจากวางผิดชั้น หรือเกิดจากฐานกระดูกฮัมพ์เราสูง เพราะถ้าฐานกระดูกฮัมพ์เราสูง ก็จะทำให้มีโอกาสขยับได้นิดหน่อยค่ะ แต่ถ้าไม่ได้เกิดจากฐานกระดูกฮัมพ์สูง แนะนำว่าก็ควรแก้เพื่อในระยะยาว จะไม่ทำให้ซิลิโคนเคลื่อนลง หรือทำให้ไม่มั่นใจค่ะ
ปัญหาเรื่องไม่พอใจรูปทรงจมูก ซึ่งปัญหานี้ต้องประเมินหลายๆองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อที่สามารถยืดได้มากน้อยขนาดไหน เพราะถ้าอยากได้โด่งมากขึ้น ก็ต้องดูว่าเนื้อของเราสุดแล้วหรือยัง เพราะว่าถ้าเนื้อจำกัด ถึงแก้ไป ก็อาจทำให้ไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าแก้ด้วยแค่แก้เปลี่ยนซิลิโคน อาจจะต้องดูว่าวิธีการอื่นๆที่นำมาช่วยได้มีอะไรบ้าง อาทิ ยืดผนังกั้นจมูก หรือว่าต่อปลายด้วยกระดูกอ่อนหลังหู
ปัญหาเบี้ยวเอียง ต้องดูว่าเอียงเกิดจากอะไร ไม่ว่าจะเป็นเอียงจากการที่เหลาซิลิโคนไม่ครอบ หรือเกิดจากฐานกระดูกไม่เท่ากัน หรือว่าเกิดจากการฮัมพ์สูง และเกิดจากการที่เลือกซิลิโคนไม่เหมาะกับโครงสร้าง รวมถึงไม่ผ่านการเหลา ทำให้มีโอกาสเบี้ยวเอียงสูงมากกว่าปกติ
วิธีการก็ต้องดูว่าเกิดจากอะไร ก็แก้ปัญหาที่ตรงนั้นก็จะทำให้หายเบี้ยวเอียง ถ้าเกิดจากโครงสร้าง อาจต้องมีการตอกฐานกระดูก หรือว่าตอกฮัมพ์ รวมถึงตะไบฮัมพ์ เป็นต้น ถ้าเกิดจากการเลือกซิลิโคนไม่เหมาะกับโครงสร้าง แนะนำว่า ให้ปรึกษาแพทย์จะดีที่สุดค่ะ
ปัญหาปลายจมูกบาง เสี่ยงทะลุ หรือว่าสันบางมากจนเสี่ยงทะลุ แนะนำว่าควรลดขนาดซิลิโคน รวมถึงต้องรองต่อปลายด้วยเนื้อเยื่อเทียม หรือกระดูกอ่อนหลังหู ก็จะช่วยเพิ่มความหนาได้ระดับหนึ่ง
ปัญหาสิวขึ้นบริเวณจมูก ต้องเช็คก่อนว่า “สิว” นั้นขึ้นตำแหน่งไหนบ้าง เนื่องจากตำแหน่งที่กังวลมากสุดคือ ปลายจมูก เพราะสามารถบ่งบอกถึง อาการเสี่ยงทะลุได้ก็ต้องทำการแก้ไข
ถ้าเกิดจากเสี่ยงทะลุ ก็ควรลดขนาดซิลิโคน หรือว่าถอดพักก็ได้ แต่ถ้าเป็นปัญหาสิวอักเสบทั่วไป ก็แนะนำว่าให้ทายาลดสิว และทานยาฆ่าเชื้อที่ใช้ในการรักษาสิว เป็นต้น
หวังว่าข้อมูลที่หมอหลิว รวบรวมมาเพื่อให้เพื่อนๆเช็คทรงจมูกของตัวเอง ว่าเราต้องแก้หรือไม่ แล้วถ้าแก้ ต้องแก้ปัญหาอย่างไรบ้างเพื่อตอบโจทย์งานแก้ได้ดีที่สุด ไม่งั้นเราก็จะแก้ไม่สิ้นสุด เพราะว่าไม่เป็นที่พอใจสักที
หมอแนะนำว่าเราควรลิสต์รายการต่างๆที่เราไม่ชอบ แล้วแก้ปัญหาให้ครบทุกข้อ ก็จะสามารถตอบโจทย์ที่เรากังวลได้มากที่สุด และได้ทรงตามต้องการ ก็จะไม่แก้อีกเลย ถ้าเราชัดเจนว่าสิ่งที่เราไม่ชอบคืออะไรแล้วแก้ปัญหาให้ตรงจุดนั้น ยังไงก็สามารถทักถาม หรือปรึกษาหมอหลิวได้โดยตรงนะคะ